ศิลปะช่วยฝึกสมาธิ ลดความใจร้อน และความก้าวร้าว
ในยุคที่มีสื่อดิจิทัลและเกมออนไลน์มากมาย เด็กๆ ไม่เพียงมีปัญหาสมาธิสั้นเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นคนอารมณ์ร้อนและแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวได้ด้วย เนื่องจากสื่อและเกมเหล่านี้มีเนื้อหาที่รวดเร็ว สีสันจัดจ้าน เพื่อดึงดูดความสนใจของเด็กให้จดจ่ออยู่กับจอตลอดเวลา
การเรียนศิลปะสามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ศิลปะเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิและความตั้งใจสูง เด็กๆ จะได้ใช้เวลาอยู่กับชิ้นงานอย่างจดจ่อ ทำงานเป็นขั้นเป็นตอนอย่างไม่รีบร้อน ฝึกความสัมพันธ์ระหว่างการทำงานของตาและมือ แทนที่จะใช้ประสาทสัมผัสหลายๆ อย่างพร้อมกันอย่างรวดเร็วเหมือนการดูการ์ตูนหรือ เล่นเกม
การใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งเดียวอย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป จะช่วยสร้างความสงบให้กับจิตใจของเด็ก หากทำอย่างต่อเนื่องจะยิ่งช่วยให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายและสัมผัสได้ถึงความสุนทรีย์ของการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ซึ่งแตกต่างจากการเสพสื่อบันเทิงอย่างสิ้นเชิง
ทั้งนี้ การฝึกสมาธิไม่จำเป็นต้องเป็นศิลปะเสมอไป อาจเป็นกีฬาหรือดนตรีก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละเด็กเพื่อให้เขาสามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นๆ ได้นาน แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดคือผู้ปกครอง ที่เป็นผู้จัดสภาพแวดล้อมและสนับสนุนให้เด็กมีกิจกรรมที่เหมาะสมในการฝึกสมาธิ ช่วยลดพฤติกรรมวู่วาม และความก้าวร้าว