คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเด็กในๆยุคนี้เสี่ยงที่จะมีปัญหาเรื่องสมาธิ
เพราะในโลกปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่เกือบทุกอย่าง
ทำให้เด็กๆในยุคนี้ต้องเผชิญกับปัญหาสมาธิสั้นทั้งแบบแท้
และเทียมกันมากขึ้น
น่าเห็นใจตรงที่เค้าเกิดมาในเวลาที่โลกรู้จัก
แต่นวัตกรรมต่างๆ ที่มาพร้อมความเร็ว ซึ่งส่งผลให้
ความสามารถในการอดทนรอคอยของผู้คนลดลง
ไม่ว่าจะเป็นแท๊บเล็ต หรือ สมาร์ทโฟน
ที่แข่งกันประมวลผลเร็วขึ้นทุกวัน
หรือสัญญาณ 5G และอินเตอร์เนตความเร็วสูง
ที่ทำให้เราแทบไม่ต้องรอการโหลด
ข้อมูลกันอีกต่อไป (ตอนนี้คลิปโหลดช้า ใครๆก็หงุดหงิดใช่มั้ยคะ)
รวมถึงสิ่งเร้าต่างๆ ที่ทำให้คนสมัยนี้กลายเป็น
คนที่ทำอะไรหลายกิจกรรมในเวลาเดียวกัน
ทุกปัจจัยต่างรุมเร้าให้เด็กๆยุคนี้ มีปัญหาสมาธิกันมากขึ้น
ซึ่งตราบใดที่มนุษย์ยังต้องพึ่งพาสมองในการคิด การทำงาน
เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า “สมาธิ” คือสิ่งสำคัญ
ที่จะทำให้เด็กๆเรียนดี รวมถึงทำหน้าที่การงาน
และสิ่งต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มศักยภาพ
ในอีกมุมนึง เรายังโชคดีที่มีกิจกรรมเนิบช้า
แต่สร้างความสุขได้อย่าง”ศิลปะ”
ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมบำบัดความรวดเร็ว
ของจิตใจค่ะ

และถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ข้างในออกมาเป็นภาพ
เด็กๆจึงมักจะเพลิดเพลิน จดจ่อและมีความสุข
กับการทำงานศิลปะ และส่งผลให้สมาธิได้รับการพัฒนา
ศิลปะจึงไม่ใช่แค่ทักษะการวาดรูประบายสี
แต่เป็นกรรมวิธีที่เด็กๆจะได้นำไปใช้
ในการบำบัดความรีบร้อน และสร้างสุขให้กับตนเองในอนาคตได้ค่ะ